Our Services

Web Design

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

Logo Design

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

Web Development

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

VIEW ALL SERVICES

Shop Our Products

Hoodies

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

T-Shirts

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

Jeans

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

BROWSE ALL OUR PRODUCTS

More of us

Customer Reviews

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

Good Stuff We do!

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

More From Us...

Your content goes here. Edit or remove this text inline.

EXPLORE CUSTOMERS STORIES

พูดคุย –

0

Discussion – 

0

แอล-ธีอะนีน ประโยชน์ต่อสุขภาพ และการทำงานขององค์ความรู้

by | Sep 15, 2023 | Contents | 0 comments

    

          กรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (γ-N-ethylglutamine) เกิดขึ้นตามธรรมชาติในใบชาและในเห็ด Xerocomus badius ที่รับประทานได้ ชาเขียวและชาดำนั้นทำมาจากพืชชนิดเดียวกัน ชาดำผลิตขึ้นจากการหมัก แต่ชาเขียวไม่ผ่านการหมัก ชาเขียวเป็นยาหลักในการแพทย์แผนจีนมาเป็นเวลากว่า 3 พันปี และมีการใช้เป็นยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ อีกทั้งใช้เดี่ยวๆ ในรูปของของเหลวเข้มข้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและการจดจ่อ ปริมาณแอล-ธีอะนีนขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกชา วิธีการผลิต และเวลาในการเก็บเกี่ยว ชาประเภทต่างๆ เช่น Camellia sinensivar มีแอล-ธีอะนีนเข้มข้นสูงกว่า C. sinensis ที่ผู้คนคุ้นเคย มีแอล-ธีอะนีนสังเคราะห์ (Suntheanine™) จำหน่ายด้วยเช่นกัน

             แอล-ธีอะนีนใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบเอเชียในการรักษาปัญหาสุขภาพและสุขภาพจิตที่หลากหลาย และกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศตะวันตก คาเฟอีน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักอีกชนิดหนึ่งในชา ช่วยเพิ่มระดับของอะเซทิลโคลีนและโดปามีนในสมอง ส่งผลให้มีสมาธิ การรับรู้ และอารมณ์ดีขึ้น คาเฟอีนให้ผลทางการรับรู้ที่เป็นประโยชน์ได้เร็วกว่าผลของแอล-ธีอะนีน เนื่องจากคาเฟอีนจะถูกดูดซึมได้เร็วกว่า โดยจะไปถึงระดับสูงสุดในพลาสมาหลังจากผ่านไป 30 นาที เมื่อเทียบกับแอล-ธีอะนีนที่ไปถึงระดับสูงสุดในพลาสมา 50 นาทีหลังการบริโภค นอกจากแอล-ธีอะนีนและคาเฟอีนแล้ว ใบชายังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น กรดอะมิโนกลูตามีนอาร์จินีน ซีรีน และอะลานีน และสารประกอบฟีนอลิก อิพิกัลโลคาเทชิน อีพิคาเทชิน แกลเลต อีพิคาเทชิน และอีพิกัลโลคาเทชิน-กัลเลต (หรือที่เรียกว่า ‘catechins’) มัทฉะเป็นการปรุงชาเขียวแบบพิเศษที่มีสารไฟโตเคมิคอลที่เป็นประโยชน์ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับชาเขียวทั่วไป

              การศึกษาในสัตว์และมนุษย์สนับสนุนว่าแอล-ธีอะนีนช่วยลดการตอบสนองต่อความเครียดตามตามที่รู้สึกด้วยตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ และมีผลในการป้องกันโรคเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน และโรคไข้หวัด องค์ประกอบต่างๆ ของชาเขียว เช่น แอล-ธีอะนีน คาเฟอีน และคาเทชิน อาจช่วยป้องกันกลุ่มอาการเมตาบอลิซึมและโรคอ้วนได้ แอล-ธีอะนีนช่วยลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดจากออกซิเจนชนิดปฏิกิริยา (กล่าวคือ ‘อนุมูลอิสระ’) เพิ่มความเข้มข้นของกลูตาไธโอนในตับ ช่วยเพิ่มความสามารถของเอนไซม์ในตับ เช่น ซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเตส เพื่อล้างสารพิษออกจากเลือด ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าแอล-ธีอะนีนมีประโยชน์ในการต่อต้านวัย Catechins จากชาเขียวอาจช่วยต้านจุลชีพและต้านไวรัส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเรา ในทางเดินอาหาร การศึกษาพบว่าชาเขียวสามารถกระตุ้นสารต้านอนุมูลอิสระภายในเซลล์และยับยั้งการก่อตัวของสารก่อมะเร็งเมื่อเผาผลาญในร่างกาย

แอล-ธีอะนีนและความผิดปกติของระบบประสาท

            การศึกษาพบว่าแอล-ธีอะนีนสามารถปรับปรุงการเรียนรู้ ความจำ และการทำงานขององค์ความรู้ และเพิ่มการเลือกจดจ่อระหว่างงานที่ต้องใช้สมอง การศึกษาทางระบาดวิทยาสนับสนุนว่าการบริโภคชาที่ทำจากใบของ Camellia sinensis เป็นประจำมีความสัมพันธ์กับการลดการเสื่อมของความรู้ความเข้าใจ อารมณ์ที่ดีขึ้น และความสามารถในการรับมือกับความเครียดที่เพิ่มขึ้น แอล-ธีอะนีนเป็นการบำบัดเสริมสำหรับโรคจิตเภท และอาจมีประโยชน์ต่อความผิดปกติทางอารมณ์ โรคสมาธิสั้น (ADHD) เช่นเดียวกับโรคตื่นตระหนก โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) และโรคอารมณ์สองขั้ว

             การศึกษาที่ควบคุมด้วยยาหลอกได้ตรวจสอบผลของแอล-ธีอะนีนต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการรับรู้ โดยใช้เพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับคาเฟอีน โดยพบว่าการทำงานทางการรับรู้ได้รับการปรับปรุงเมื่อใช้การรักษาร่วมกัน แต่ไม่ตอบสนองต่อแอล-ธีอะนีนเพียงอย่างเดียว การวิเคราะห์อภิมานสองชิ้นเกี่ยวกับการแทรกแซงของมนุษย์ต่อผลกระทบทางจิตประสาทเฉียบพลันที่องค์ประกอบชามีต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการเรียนรู้นั้นพบหลักฐานว่าแอล-ธีอะนีนช่วยเพิ่มการผ่อนคลาย (ตามที่ผู้ร่วมทดลองทำการรายงานด้วยตนเอง) ลดความรู้สึกเครียดตามที่รู้สึกเอง และคาเฟอีนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทางการรับรู้ และเพิ่มความตื่นตัวและความแข็งแรง

            การศึกษาในสัตว์ทดลองสนับสนุนว่าแอล-ธีอะนีนสามารถข้ามแนวกั้นเลือดและสมองในสมองได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มระดับซีโรโทนิน GABA และโดปามีนในสมอง ผูกกับตัวรับกลูตาเมตและ NMDA และอาจเพิ่มระดับโปรตีนที่เป็นอาหารของเซลล์ประสาทสมองได้ (BDNF) การบริโภคแอล-ธีอะนีนในระยะยาว (เช่น นาน 3 ถึง 4 สัปดาห์) อาจมีประโยชน์ในการป้องกันระบบประสาทโดยอาศัยการสังเคราะห์โปรตีนที่เป็นอาหารของเซลล์ประสาทสมอง (BDNF) ที่เพิ่มขึ้นในบริเวณฮิบโปแคมปัส ซึ่งเป็นพื้นที่ของสมองที่มีบทบาทสำคัญในการรวบรวมความจำ เชื่อว่าผลกระทบทั้งหมดเหล่านี้ส่งผลให้ความวิตกกังวลลดลง

เนื่องจากแอล-ธีอะนีนมักจะทานร่วมกับคาเฟอีนและส่วนประกอบออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ ของชา การศึกษาส่วนใหญ่จึงได้ศึกษาผลรวมของแอล-ธีอะนีนและคาเฟอีนต่ออารมณ์และการรับรู้

แอล-ธีอะนีน ความวิตกกังวล และความเครียด

               ฤทธิ์ต้านความวิตกกังวลของแอล-ธีอะนีนนั้นเกิดขึ้นผ่านกลไกต่างๆ ซึ่งรวมถึงการทำงานของคลื่นสมองอัลฟาที่เพิ่มขึ้น การสังเคราะห์ GABA ที่เพิ่มขึ้น และบทบาทของสารนี้ในฐานะที่เป็นสารต้านอ่อนๆ สำหรับตัวรับกลูตาเมตของ AMPA เราพบประโยชน์ทั่วไปของแอล-ธีอะนีนในด้านการทำให้สงบได้จากการทำงานของไฟฟ้าในสมองที่เพิ่มขึ้นในช่วงความถี่อัลฟา (8 ถึง 13 Hz) การเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมองที่วัดโดยคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ขึ้นอยู่กับขนาดยา และคล้ายกับการเปลี่ยนแปลง EEG ที่เป็นประโยชน์ที่พบในการทำสมาธิ รวมถึงคลื่นอัลฟาที่เพิ่มขึ้นในบริเวณท้ายทอยและข้างขม่อม คลื่นอัลฟาที่เพิ่มขึ้นนี้จะดำเนินต่อไปเป็นเวลา 60 นาทีหลังจากได้รับแอล-ธีอะนีนขนาด 200 มก. และผลกระทบนี้มีความชัดเจนมากขึ้นในบุคคลที่มีความวิตกกังวลแฝงมากขึ้น ท้ายที่สุดนี้ พบว่าการบริโภคชาเขียวที่มีปริมาณแอล-ธีอะนีนสูงช่วยลดการโตของต่อมหมวกไตมากเกินไปในหนูที่สัมผัสกับความเครียดเรื้อรัง

                ผู้ที่ดื่มชาเขียวเนื่องจากความเครียดหรือความวิตกกังวลอาจได้รับผลในด้านความสงบมากกว่าผลในด้านการกระตุ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณสัมพัทธ์ของแอล-ธีอะนีนและคาเฟอีนในชาบางชนิดและวิธีปรุงชา โดยทั่วไป ผลข้างเคียงที่ทำให้สงบมักสังเกตเห็นได้ภายใน 30 ถึง 40 นาทีหลังจากรับประทานแอล-ธีอะนีนในขนาด 50 ถึง 200 มก. และโดยทั่วไปจะคงอยู่ 8 ถึง 10 ชั่วโมง อาการวิตกกังวลปานกลางมักตอบสนองต่อปริมาณ 200 มก. เมื่อทานวันละครั้งหรือสองครั้ง หากมีความวิตกกังวลที่รุนแรงขึ้น อาจต้องใช้ขนาด 600 มก. ถึง 800 มก. ต่อวัน โดยเพิ่มขึ้นทีละ 100 มก. ถึง 200 มก. ระหว่างวัน แอล-ธีอะนีนไม่ก่อให้เกิดอาการง่วงนอน ปฏิกิริยาตอบสนองช้า หรือเสียสมาธิ จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการดื้อยาหรือการพึ่งยา ไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่ร้ายแรงหรือปฏิกิริยาระหว่างยาแอล-ธีอะนีนกับยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอื่นๆ

               ผลการศึกษาเกี่ยวกับแอล-ธีอะนีนสำหรับความวิตกกังวลขณะเผชิญนั้นไม่สอดคล้องกัน ความแตกต่างในผลลัพธ์อาจเกี่ยวข้องกับประชากรผู้ป่วยที่แตกต่างกันที่ได้รับการตรวจสอบ และอาจเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าการศึกษาบางชิ้นตรวจสอบคาเฟอีนร่วมกับแอล-ธีอะนีน การทดลองที่ควบคุมด้วยยาหลอกซึ่งเปรียบเทียบแอล-ธีอะนีน 200 มก./วัน กับ benzodiazepine alprazolam พบหลักฐานสำหรับผลทั่วไปในการลดกังวลแต่ไม่ได้ลดความวิตกกังวลขณะเผชิญที่เกิดจากการทดลอง ในทางตรงกันข้าม การศึกษาอื่นอีกสองชิ้นรายงานว่าค่าความเครียดตามที่รู้สึกด้วยตนเองนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการตอบสนองต่อปริมาณแอล-ธีอะนีนในปริมาณเดียวกัน เช่น มีการลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ในการทดลองที่ควบคุมด้วยยาหลอกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ (N= 30) พบว่าผู้ใหญ่ที่ไม่มีอาการป่วยทางจิตที่สุ่มรับแอล-ธีอะนีน 200 ม./วัน มีความวิตกกังวลขณะเผชิญลดลงอย่างมีนัยสำคัญและการนอนหลับดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ในการทดลองเล็กๆ ที่ควบคุมด้วยยาหลอก อาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี 16 คนได้รับการสุ่มเลือกให้ใช้ยาแอล-ธีอะนีน 200 มก./วัน เทียบกับ alprazolam 1 มก. หรือยาหลอก พร้อมได้รับการสังเกตระหว่างสภาวะวิตกกังวลแบบเฉียบพลันที่กระตุ้นจากการทดลอง แอล-ธีอะนีนมีผลด้านความผ่อนคลายระดับหนึ่งในระหว่างสภาวะการตรวจวัดพื้นฐาน แต่ทั้ง alprazolam และแอล-ธีอะนีนไม่มีผลลดกังวลไปมากมากกว่ายาหลอกในสภาวะผ่อนคลายหรือสภาวะวิตกกังวลที่เกิดจากการทดลอง

              ในการศึกษาที่ควบคุมด้วยยาหลอก 10 สัปดาห์ (N= 46) ผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น DSM-5 เกี่ยวกับโรควิตกกังวลทั่วไปได้รับการสุ่มให้รับแอล-ธีอะนีน (450 ถึง 900 มก./วัน) เทียบกับยาหลอกในขณะที่รับประทานยาปัจจุบันต่อไปด้วย กลุ่มที่เสริมแอล-ธีอะนีนไม่ได้มีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มยาหลอกเมื่อวัดการลดความวิตกกังวลหรือคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น ในการศึกษาขนาดเล็กที่ควบคุมด้วยยาหลอก (N= 34) ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงอายุ 18-40 ปีได้รับเครื่องดื่มแอล-ธีอะนีนเทียบกับยาหลอก จากนั้นให้รับความเครียดทางการรับรู้จากการทำหลายงานพร้อมกัน กลุ่มแอล-ธีอะนีนรายงานว่าการตอบสนองต่อความเครียดนั้นต่ำกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเกิดผลในเวลาหนึ่งชั่วโมงหลังจากดื่มเข้าไป การศึกษาอื่นเกี่ยวกับเครื่องดื่มสารอาหารที่มีแอล-ธีอะนีน 200 มก. phosphatidylserine 1 มก. ดอกคาโมไมล์ 10 มก. และ glycerylphosphorylcholine 25 มก. พบว่าการตอบสนองต่อความเครียดที่รู้สึกด้วยตนเองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 1 ชั่วโมงหลังการรับประทาน และลดระดับคอร์ติซอลในซีรัมอย่างมีนัยสำคัญ 3 ชั่วโมงหลังการรับประทาน

แอล-ธีอะนีนและความผิดปกติทางจิตเวชอื่นๆ

              การศึกษาที่ควบคุมด้วยยาหลอกพบว่าการทานแอล-ธีอะนีน 100 มก. วันละสองครั้งทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเด็กผู้ชายที่เป็นโรคสมาธิสั้น ซึ่งแนะนำว่าแอล-ธีอะนีนอาจเป็นยาเสริมที่มีประสิทธิผลในเด็กสมาธิสั้น แอล-ธีอะนีนไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน แต่การรับประทานแอล-ธีอะนีน 200 มก. ก่อนนอนอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยการลดความวิตกกังวล

            ผลการวิจัยใหม่ๆ สนับสนุนว่าแอล-ธีอะนีนอาจมีผลดีต่ออาการซึมเศร้าและโรคจิต ในการศึกษาแบบเปิดเป็นเวลา 8 สัปดาห์ (N= 20) ผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงที่รักษาด้วยแอล-ธีอะนีน 250 มก./วัน รายงานว่าอารมณ์ ความวิตกกังวล และคุณภาพการนอนหลับดีขึ้น

             แอล-ธีอะนีนอาจมีผลดีต่อความวิตกกังวลที่เกี่ยวข้องกับโรคจิต ผลการวิจัยของการทดลองที่ควบคุมด้วยยาหลอกเป็นเวลา 8 สัปดาห์สนับสนุนว่าการเสริมแอล-ธีอะนีนในบุคคลที่เป็นโรคจิตเภทและโรคจิตอารมณ์ช่วยลดระดับความวิตกกังวลได้ ผลประโยชน์ของการเสริมแอล-ธีอะนีนในประชากรกลุ่มนี้อาจเกิดจากการที่คอร์ติซอลและโปรตีนที่เป็นอาหารของเซลล์ประสาทสมอง (BDNF) เพิ่มขึ้น การรักษาแบบผสมผสานที่ประกอบด้วย neurosteroid pregnenolone และกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีนนั้นอาจมีประโยชน์ต่ออาการของโรคจิต ในการทดลองแบบอำพรางสองฝ่ายที่ควบคุมด้วยยาหลอกเป็นเวลา 8 สัปดาห์ (N= 40) ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคจิตเภทหรือโรคจิตอารมณ์ที่มีการตอบสนองต่อยารักษาโรคจิตน้อยได้รับการสุ่มให้ให้รับ pregnenolone (50 มก./วัน) บวกกับแอล-ธีอะนีน (400 มก./วัน) เทียบกับยาหลอก พร้อมกับใช้ยารักษาโรคจิตต่อไป เมื่อสิ้นสุดการศึกษา กลุ่มที่ได้รับ pregnenolone ร่วมกับแอล-ธีอะนีนมีอาการทางลบของโรคจิตน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในด้านอารมณ์ทื่อ ภาวะสิ้นยินดี อาการพูดน้อย นอกจากนี้ยังลดความวิตกกังวลลงอย่างมีนัยสำคัญและมีการปรับปรุงในการทำงานทั่วไปที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก

แอล-ธีอะนีนและโรคหลอดเลือดสมอง

                ผลการศึกษาในสัตว์ทดลองชี้ให้เห็นว่าแอล-ธีอะนีนอาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและบรรเทาผลกระทบจากอุบัติเหตุหลอดเลือดสมอง (กล่าวคือโรคหลอดเลือดสมอง) ผลในการปกป้องระบบประสาทของแอล-ธีอะนีนภายหลังการขาดเลือดในสมองชั่วคราวนี้อาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของแอล-ธีอะนีนในฐานะสารต้านตัวรับกลูตาเมตของ AMPA พบว่าหนูที่ได้รับแอล-ธีอะนีน (0.3 ถึง 1 มก./กก.) ก่อนเข้าสู่ภาวะสมองขาดเลือดเฉพาะที่ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำๆ และกระตุ้นด้วยการทดลองนั้นมีความบกพร่องในความจำเชิงพื้นที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญและมีการตายของเซลล์ประสาทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

0 Comments

Submit a Comment

บทความอื่นๆที่คุณอาจสนใจ

X
My cart
Your cart is empty.

Looks like you haven't made a choice yet.